เมืองย่างกุ้ง
กรุงย่างกุ้งเป็นเมืองหลวงของมณฑลและอดีตเมืองหลวงของประเทศ
ที่ตัง้อยู่ทางภาคกลางตอนล่างของสหภาพพม่า มีพื้นที่ 3,927.15 ตารางไมล์
ตัวเมืองมีสายน้ำโอบล้อมทั้ง 3 ด้าน
กล่าวคือทิศตะวันตกและใต้ถูกโอบล้อมด้วยแม่น้ำย่างกุ้ง
ทิศตะวันออกติดกับห้วยปะสุ่นต่าวและทิศเหนือติดกับเชิงเขาที่มีบึงน้ำขนาดใหญ่ซึ่งอังกฤษขุดสร้างไว้
โดยมีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 5 ล้านคน
ความหนาแน่นของประชากรประมาณ 1,300 คนต่อตารางไมล์
ประกอบด้วยชนชาติหลากหลายชาติพันธุ์
โดยมีชาวพม่าเป็นประชากรส่วนใหญ่ของมณฑลนี้และใช้ภาษาพม่าเป็นหลัก
นอกจากนียั้งมีประชากรเชื้อ สายแขกและจีนอยู่เป็นจำนวนมาก
จึงทำให้กรุงย่างกุ้งเป็นเมืองที่มีความหลากหลายของวัฒนธรรม อย่างไรก็ตามชาวย่างกุ้งส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ
รองลงมาเป็นชาวมุสลิมและชาวคริสต์ ตามลำดับ จึงมีวิถีชีวิตที่คล้ายคลึงกับคนไทย
ถึงแม้จะมีการย้ายเมืองหลวงไปแล้ว แต่กรุงย่างกุ้งยังคงมีที่ตั้งของที่ทำการรัฐบาล
สถานศึกษา รวมถึงมีกิจกรรมที่สำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศอยู่มากมายพระบรมธาตุชเวดา(SHWEDAGONPAGODA) พระมหาเจดีย์ทองคำที่งดงามตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ใจกลางเมืองย่างกุ้ง
มีความสูงประมาณ 109 เมตร ประดิษฐานอยู่บนเนินดินชื่อ “SINGUTTARA” ซึ่งมีลานรูปสี่เหลี่ยมและเป็นเนินที่สูงที่สุดในเขตปริมณฑลเมืองย่างกุ้งมีความยาว
โดยรอบ ประมาณ 473 เมตร รอบฐานพระมหาเจดีย์รายล้อมไปด้วยเจดีย์องค์เล็กๆ
อีกร้อยองค์
มีซุ้มประตูสี่ด้านยอดฉัตรองค์พระมหาเจดีย์ประกอบด้วยเพชรและพลอยมากมาย
นับเป็นงานถาปัตยกรรมฝีมือช่างพม่าที่งดงามหาที่เปรียบมิได้
เชื่อกันว่าภายในองค์พระมหาเจดีย์ได้บรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8
เส้น พระมหาเจดีย์นี้ยังคงฐานะของพุทธสถานอันเป็นที่พึ่งทางใจของคนพม่า
วัดมหากันดายงค์
ซึ่งเป็นวัดใหญ่ที่สุดของพม่าที่เมืองอมรปุระ
ซึ่งในช่วงเพลจะมีภิกษุสงฆ์นับร้อยรูปเดินเรียงแถวด้วยอาการสำรวมเพื่อรับอาหารพระพุทธมหามุนี
(Mahamui Pagoda
)หรือรู้จักกันในนามพระล้างหน้า ที่มีความงดงามตามศิลปกรรมพม่า
ที่มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปสำริดปิดทอง ที่อย
คู่บ้านคู่เมืองมาช้านานที่สร้างขึ้นราว ปี พ.ศ 2327 เป็นสถานที่ที่สำคัญรองจากพระธาตุเชเวดากองในกรุงย่างกุ้ง
พระราชวังมัณฑะเลย์ของพระเจ้ามินดงและกษัตริย์ สีป่อ พระเจ้าแผ่นดินองค์สุดท้าย
พระราชวังมัณฑะเลย์สร้างขึ้นสมัยพระราชามินดง Mindon ราชาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ภายหลังจากมีสงครามระหว่างพม่ากับอังกฤษ
ในปี พ.ศ. 2395เวลานั้นเมืองหลวงอยู่ที่ อมรปุระ Amarapura
ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2325 พระราชามินดงต้องการที่จะหาที่ตั้งของเมืองหลวงที่จะสร้างใหม่หลังสงครามเพราะเมืองหลวงเก่าได้ซึ่งผ่านสิ่งร้ายๆมา
ประกอบกับการยึดมั่นในหลักศูนย์กลางพุทธศาสนา และพระพุทธเจ้าได้ปรินิพพานครบ 2,400
ปี จึงมีรับสั่งให้สร้างเมืองหลวงใหม่ให้เป็น
"เมืองสีทอง" Golden City ได้ปรึกษากับพระโหราจารย์
และได้ศุภฤกษ์ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2400 โดยได้วางศิฤาฤกษ์ และต่อมาก็ตั้งผังเมือง
โดยฝั่งทางตะวันตกนั้นได้นำชีวิตมนุษย์สังเวย โดยนำชาย หญิง และเด็กจำนวน 52
ชีวิต ฝังไว้ภายใต้เสาหลักเมือง
เชื่อว่าวิญญาณของคนเหล่านี้จะปกป้องคุ้มครองเมือง
การก่อสร้างเมืองเสร็จสมบูรณ์ในปี 2402 รวมระยะเวลาในการสร้าง
2 ปี เมืองสร้างเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส วัดได้ ประมาณ 2,030
เมตร ในแต่ละด้าน พระราชวังตั้งอยู่ตรงกลางจตุรัส
มีกำแพงล้อมรอบโดยมีประตู 12 ด้าน
ตามจักราศรีพระราชวังโดดเด่นด้วยหอสูง 78 เมตร
ซึ่งตั้งเป็นศูนย์กลางของจักรวาลตามความเชื่อ เกี่ยวกับเรื่องไตรภูมิในพุทธศาสนา
หลังคาสูงเจ็ดชั้นประดับด้วยทองคำเปลว โดยได้สร้างให้สมเกียรติ
กับบัลลังค์สิงโตซึ่งใช้ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญๆ เช่นพิธีKadaw เทิดพระเกียรติ ซึ่งจัดขึ้น 3 ครั้งต่อปี
พระราชวังทั้งหมดทำจากไม้ซึ่งนำมาจากวังเดิมที่อมรปุระ
พระราชวังตกแต่งด้วยไม้แกะสลักเป็นรูปตามเทพนิยาย
รูปดอกไม้และสัญลักษณ์ทางโหราศาสตร์ มีหอนาฬิกาที่ทำจากไม้สักเพื่อเป็นที่สังเกตุการณ์ของทหารเพื่อระวังไฟไหม้
กษัตริย์มินดงได้สวรรค์คตในปี 2421 ต่อมาพระราชวังได้ถูกไฟไหม้วอดวาย
ในปี 2488 รัฐบาลพม่าจึงได้บูรณะวังใหม่
วัดชเวนันดอ
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หลายประเทศที่ประสบปัญหาหลังสงครามจบลงไป
ประเทศพม่าก็เช่นกัน
ได้รับความเสียหายจากระเบิดในช่วงสงครามอยู่ไม่น้อย แต่ที่น่าทึ่งอยู่คือ วัดชะเวนันดอว์ ซึ่งเป็นวัดเก่าโบราณที่รอดจากระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่
2
ซึ่งชาวพม่าจะเรียกวัดแห่งนี้ว่า พระอารามชเวนันดอว์ หรือ พระราชมณเฑียรทองเดิมสมัยก่อน วัดชเวนันดอว์
สร้างขึ้นจากไม้สักทองและใช้ทองคำปิดตัววัดทั้งหลัง
แต่ปัจจุบันได้หลุดหลอกออกไปเกือบหมดแล้ว โดยเฉพาะด้านนอกของตัววัดชเวนันดอว์
ซึ่งเราจะมองเห็นเป็นตัวไม้สักทองจริงๆ ส่วนด้านในยังพอเห็นเนื้อสีทองอยู่บ้าง
หลังคาของพระอารมชเวนันดอว์เป็นทรงปราสาท 5 ชั้น
มีความสวยงามเป็นอย่างมาก ถือได้ว่าเป็นยอดสถาปัตยกรรมงานแกะสลักไม้ของพม่าเลยทีเดียวครั้งเมื่อก่อนพระราชมณเฑียรทอง
แห่งนี้ได้อยู่ภายในเขตพระราชวัง เป็นที่นั้งสมาธิเจริญภาวนของพระเจ้ามินดง
ในตอนที่พระองค์ทรงประชวรก็จะมานั้งสมาธิและ สิ้นพระชนม์ที่นี่
แต่ภายหลังหมดรัชกาลพระเจ้ามินดงแล้ว พระเจ้าธีบอ
ซึ่งขึ้นครองราชย์แทนได้ย้ายพระอารามมาไว้ยังจุดนี้ ซึ่งอยู่นอกกำแพงวัง
และนี้เองจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้วัดชเวนันดอว์รอดจากระเบิดและ ไฟสงครามต่างๆ
หลงเหลือไว้ให้เราชื่นชมมาจนปัจจุบัน ซึ่งสร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง
ลวดลายแกะสลักวิจิตร อ่อนช้อยทั้งหลังคา บานประตู
และหน้าต่างอันเน้นรายละเอียดเกี่ยวกับพุทธประวัติ
และทศชาติของพระพุทธเจ้าซึ่งความงดงามตามแบบศิลปะพม่าแท้ ๆ
ภายในวัดมีพระพุทธรูปอันวิจิตรงดงามศิลปะพม่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น