ประเทศฟิลิปปินส์

Ocean Park




   Ocean Park สวนสนุกอีกแห่งในประเทศฮ่องกง ถือเป็นสถานที่เที่ยวที่มีผู้คนไปเยือนมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง สวนสนุกนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาเขตทางใต้ของฮ่องกง กินพื้นที่มากกว่า 870,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเมื่อเล่นเครื่องเล่นที่มีความสูงจะทำให้เห็วิวที่สวยงามของมหาสมุทรได้โอเชี่ยนปาร์คฮ่องกงเปิดในปี 1977 เป็นสวนสนุกสัตว์ทะเลระดับโลก มีการแสดงเกี่ยวกับสัตว์ เครื่องเล่นน่าหวาดเสียว และโชว์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความสนุุกไปพร้อมๆกับความรู้และการอนุรักษ์ธรรมชาติเนื่องจากสวนสนุกที่นี่ตั้งอยู่บนภูเขาสวนสนุกจึงถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน การจะข้ามไปยังอีกโซนหนึ่งจึงต้องอาศัยกระเช้าเพื่อข้ามไปหรือจะนั่งรถบัสไปยังทางเข้าอีกฝั่งก็ได้เป็นสวนสนุกที่อยู่บนยอดเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์มหาสมุทรจากบนผาสูงนั้นได้โดยเฉพาะจะเสียวมากๆถ้าไปเล่นเครื่องดิ่งจากที่สูงมากๆแล้วเมื่อมองลงมาก็จะเห็นมหาสมุทรกว้างใหญ่ เนื่องจากตั้งอยู่บนที่สูงชัน การเดินขึ้นจึงต้องใช้บันไดเลื่อน ที่ยาวมากๆ




สวนไรซาล



        สวนไรซาลนั้นเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ ที่อยู่ในกรุงมะนิลาสวนไรซาล(Rizal Park) หรือ เรียกอีกชื่อว่าลูเนต้า(Luneta)  เป็นจุดศูนย์กลางหลักสำหรับวิถีชีวิตของชาวมะนิลาสวนสาธารณะใจกลางกรุงมะนิลาแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ชาวท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนหย่อนใจ เล่นกีฬาและซึมซับมรดกทางวัฒนธรรมของบ้านเมือง สวนไรซาลมีเนื้อที่ครอบคลุม 143 ไร่ โดยประมาณแล้วก็เป็น 1 ใน 3 ของพื้นที่สวนลุมบ้านเราซึ่งถือได้ว่าเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่แห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยชื่อของสวนแห่งนี้ ตั้งตามชื่อของ ดร.โฮเซ่ ไรซาล (Jose Rizal) วีรบุรุษผู้นำการต่อต้านระบบอาณานิคมของสเปน ที่สวนไรซาลแห่งนี้ผู้เข้าชมสามารถเพลิดเพลินไปกับพิพิธภัณฑ์ทางวัฒนธรรม หรือ เดินเล่นสบายๆในสวนญี่ปุ่นและสวนจีน ช่วงเวลาเช้า ผู้คนจะมาออกกำลังกายและเล่นไทชิบริเวณสวน หรือ ชมฟรีคอนเสิร์ตทุกวันอาทิตย์ที่สวนสาธารณะ เป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ของเมือง และเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ โฮเซ่ ไรซาล (Jose Rizal) ซึ่งเป็นผู้นำในการปลดแอกฟิลิปปินส์จาสเปนในช่วง ค.ศ.1896-1898 และในบริเวณเดียวกันก็เป็นจุดที่ฟิลิปปินส์ประกาศอิสรภาพเหนือสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1941 ด้วย





ป้อมซานติเอโก


      สำหรับคนชอบเที่ยวสถานที่ประวัติศาสตร์ ไปเยือนกรุงกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ คราใดไม่น่าพลาดชม "ป้อมซานติเอโก" (Fort Santiago)สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1571 นับเป็นป้อมปราการของสเปนที่เก่าแก่ที่สุดในฟิลิปินส์ ป้อมนี้นับเป็นด่านแรกที่ป้องกันการโจมตีจากข้าศึกที่เข้ามาทางปากอ่าวมะนิลา ป้อมแห่งนี้ถูกทำลายจากการโจมตีของกองทัพสหรัฐ ต่อมาได้บูรณะซ่อมแซมเพื่อให้เป็นปูชนียสถานแห่งเสรีภาพ ” (Shrine of Freedom) บริเวณรอบป้อมมีสวนหย่อมรายล้อม มีบริการรถม้าพาชมรอบบริเวณความโดดเด่นที่สะดุดตาบนซุ้มประตู Fort Santiago ก็คือรูปสลัก เซนต์เจมส์ผู้พิฆาตแขกมัวร์” (Saint James the Moor-slayer)เซนต์เจมส์ท่านนี้เป็นนักบุญในคริสต์ศาสนาที่ชาวสเปนนับถือกันมาก ตำนานกล่าวว่าท่านเคยปรากฏกายในสงครามระหว่างชาวคริสต์กับพวกแขกมัวร์ที่เคย ยึดครองดินแดนสเปนมาก่อน โดยที่เซนต์เจมส์ขี่ม้าขาวลงมาจากสวรรค์แล้วใช้ดาบปราบกองทัพแขกมัวร์จนแตก พ่ายไปหมด  ชาวคริสต์ในสเปนจึงยกย่องท่านเป็นนักบุญผู้ปกปักรักษาประเทศสเปนมาจนถึงทุกวันนี้ป้อมแห่งนี้ เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สวยงามดึงดูดสายตามากที่สุดจากยุคอาณานิคมของสเปนป้อมปราการขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1571ป้อมแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่คุมขังนักโทษมานานนับปีและยังเป็นที่กักขังวีรบุรุษแห่งชาติอย่าง โฮเซ่ ไรซาล(หรือบางที คนฟิลิปปินส์ ก็ออกเสียงเป็น ริซัล)และยังเป็นที่กักขังเหล่านักรบเสรีภาพ ในช่วงเวลาการทำสงคราม ระหว่างการยึดครองของญี่ปุ่น เมื่อสมัยที่โปรตุเกสยังยึดครองเมืองมะละกา ป้อมปราการแห่งนี้ถูกใช้งานเป็นเสมือนด่านป้องกันเมืองมะละกาจากการบุกรุกของศัตรู โดยปกติป้อมนี้จะมีกำแพงยาวล้อมรอบเนินเขาเล็กๆ ชื่อว่าเนินเขามะละกาซึ่งป้อมปราการแห่งนี้มันได้ทำหน้าที่ของมันเป็นอย่างดีมาเป็นเวลานานกว่า 150 ปี จนกระทั่ง ฮอลันดา ได้ยกทัพมาบุกรุกและสามารถยึดครองเมืองมะละกา ได้สำเร็จในปี พ.ศ. 2184  หลังจากที่ได้ทำการล้อมเมืองนี้อยู่นานถึง 5 เดือนและหลังจากที่ได้ทำการยึดเมืองมะละกามาจากชาวโปรตุเกสได้เรียบร้อยแล้ว พวกฮอลันดาก็ได้ทำการซ่อมแซมกำแพงและ ป้อมปราการแห่งนี้ให้กลับอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ จนกระทั่งในภายหลังเมืองมะละกาได้ถูกครอบครองโดยอังกฤษผู้ปกครองเกาะปีนังได้ส่งกัปตันวิลเลียม ฟาร์คูฮาร์ มาทำลายป้อมปราการแห่งนี้ เพื่อป้องกันการอ้างสิทธิ์ครอบครองดินแดนของฮอลันดาแต่ด้วยความโชคดีของชนรุ่นหลังที่ป้อมปราการแห่งนี้ไม่ได้ถูกทำลายไปทั้งหมด ทำให้เรายังมีโอกาสได้เห็นซากแห่งประวัติศาสตร์ของเมืองมะละกา เมื่อท่านเซอร์ โทมัส สแตมฟอร์ด ราฟเฟิลส์ เดินทางมาจากสิงคโปร์ และได้เห็นเหตุการณ์ในขณะที่กำลังมีการทำลายกำแพงและป้อมปราการอยู่พอดี จึงได้ขอยับยั้งการทุบซากของประตูแห่งนี้ไว้เพราะว่าท่านได้มองเห็นคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของประตูแห่งนี้ และ ก็เป็นไปอย่างที่ท่านเซอร์ โทมัส สแตมฟอร์ด ราฟเฟิลส์ได้คาดการณ์ไว้จริง ๆ เพราะว่าซากประตูแห่งประวัตินี้ ได้ดึงดูดผู้คนกว่าล้านคนทั่วโลก ให้มาเยือนเมืองมะละกาและสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้กับเมืองนี้ ตราบจนทุกวันนี้และด้วยความที่ซากประตูแห่งนี้ไม่มีกำแพงอยู่ด้านข้างเลยเพราะว่าโดนทุบ ทิ้งไปจนหมดแล้ว ผู้คนจึงได้ขนานนามประตูแห่งนี้ว่า "ประตูไร้กำแพง"ประตูแห่งนี้มีขนาดความสูง 7 แมตร หนา 2.5 เมตร สร้างจากหินศิลาแลงฉาบปูน และ บริเวณด้านหน้ามีปืนใหญ่ตั้งอยู่รายรอบ ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกจุดที่นักท่องเที่ยวจะต้องไปเก็บภาพเมื่อได้ มีโอกาสไปเยือนเมืองมะละกา ป้อมซานติเอโก (Fort Santiago) ซึ่งเป็นด่านแรกที่ป้องกันการโจมตีจากข้าศึก ที่เข้ามาทางปากแม่น้ำปาซิก จากอ่าวมะนิลา ป้อมแห่งนี้ถูกทำลายจากการโจมตีของกองทัพสหรัฐ ต่อมาได้บูรณะซ่อมแซมเพื่อให้เป็น “ปูชนียสถานแห่งเสรีภาพ ” (Shrine of Freedom)บริเวณรอบป้อมมีสวนหย่อม รายล้อมโดยมีรถม้าให้บริการ พาชมรอบบริเวณ บริเวณดังกล่าว ยังมีสถานที่คุมขังนักโทษ ที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำปากแม่น้ำปาซิก และส่วนหนึ่งของป้อมนี้ ถูกทำเป็นสนามกอล์ฟอย่างสวยงาม


                                                                                                                 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น