ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ
ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ เป็นสวนสนุกในเครือยูนิเวอร์แซลแห่งแรกที่เปิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกำลังจะเปิดที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในสวนสนุกยูนิเวอร์แซล
สตูดิโอ สิงคโปร์ มีเครื่องเล่นทั้งหมด 24 ชนิด โดยเป็นเครื่องเล่นที่ออกแบบใหม่จำนวน 18
ชนิด พื้นที่สวนสนุกประกอบด้วยธีมปาร์คที่รวมตัวละครและสถานที่ในภาพยนตร์แอนิเมชั่นชื่อดังของบริษัทดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชั่น คือมาดากัสการ์ (Madagascar)และเชร็ค (Shrek) ธีมปาร์คในยูนิเวอร์แซล
สตูดิโอ สิงคโปร์ จะจำลองเกาะมาดากัสการ์ขึ้นมา ประกอบด้วย ทะเล
เรือเดินสมุทร และป่าที่บรรดา 4 สหายคือ อเล็กซ์ มาร์ตี้ เมลแมนและกลอเรีย รวมถึงตัวละครเอกในเรื่องเข้าไปในผจญภัยอยู่ในเกาะแห่งนี้
ธีมปาร์คส่วนนี้มีชื่อว่า “มาดากัสการ์ :
ป่วนป่าแอฟริกา (Madagascar : A Crate Adventure)เครื่องเล่นในธีมปาร์คมาดากัสการ์ประกอบด้วยการนั่งเรือผ่านฉากต่างๆที่เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์
ซึ่งเหมือนกับได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัยในเรื่องมาดากัสการ์ด้วยเช่นกันธีมปาร์คที่อยู่ใกล้ๆกันคือ ปราสาทฟาร์ ฟาร์ อเวย์ (FarFar Away Castle) ของฮีโร่ตัวเขียวเชร็ค และเจ้าหญิงฟีโอน่าในภาพยนตร์เรื่องเชร็ค ซึ่งเป็นปราสาทของกษัตริย์ฮาโรลด์และเป็นที่ประทับของเจ้าหญิงฟีโอน่า ตัวปราสาทมีความสูง 40 เมตร
สิ่งที่น่าสนใจในธีมปาร์คแห่งนี้คือมัลติมีเดียเชร็ค 4D, การโชว์ร้องเพลงของดองกี้ และเครื่องเล่นมหาสนุกเมจิก โพชั่นดินแดนมหาสนุก...ท่องโลกจินตนาการ
มีเครื่องเล่นมากมายทั้งหมด 7 โซนยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ ในพื้นที่ 49 เอเคอร์ในเกาะเซ็นโตซ่า
รายล้อมด้วยความเขียวชอุ่มของทะเลสาบ มีรีสอร์ทห้องพัก 1,800
ห้องจากโรงแรมระดับหรู 6 ดาวที่หลากหลายรูปแบบ มีทั้งยังมี คาสิโน
เมอร์ไลออนหรือสิงโตทะเล
เมอร์ไลออน (Merlion) แปลว่า สิงโตทะเล มีหัวเป็นสิงโต ร่างเป็นปลา ยืนอยู่บนยอดคลื่น แรกเริ่มเป็นสัญลักษณ์ของคณะกรรมการการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ (Singapore Tourism
Board-STB) ออกแบบขึ้นในปี 2507 โดย
นายฟราเซอร์ บรูนเนอร์ (Mr.Fraser Brunner) สมาชิกคณะกรรมการฝ่ายของที่ระลึกและผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแวนคลีฟ
(Van Kleef Aquarium)ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2509 สิงโตทะเล ( เมอร์ไลออน ) ได้รับการจดทะเบียน
เป็นเครื่องหมายการค้าของคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ (Singapore
Tourist Promotion Board-STPB)การออกแบบ
ผสมผสานเรื่องราวของตำนาน กับความจริงเข้าไว้ด้วยกัน หัวเป็นสิงโต หมายถึงสิงโตที่เจ้าชายซางนิลา อุตามะ พบตอนที่ท่านเจอ เกาะสิงคโปร์ใน
ค.ศ. 11 … ตามที่บันทึกไว้ ใน “บันทึกของชาว
มาเลย์” (Malay Annals) หางปลาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโบราณชื่อ
เทมาเส็ก (Temasek) (เป็นภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่า “ทะเล”)สิงคโปร์ เป็นที่รู้จักกันก่อนที่เจ้าชายซางนิลาจะตั้งชื่อให้ว่า
“สิงคปุระ” ที่เป็นภาษา สันสกฤต
มีความหมายว่าเมือง (ปุระ) แห่งสิงโต (สิงค์) และยังหมายถึงจุดเริ่มต้นอันต่ำต้อยของสิงคโปร์
ที่ในอดีตเคยเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมง”
เมอร์ไลออน ” ประติมากรรมสัตว์ประหลาดนี้
ต่อมาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ ในสายตาทุกประเทศทั่วโลก
ที่ไปแล้วควรจะมีรูปถ่าย เพื่อยืนยันว่า “ไปมาแล้ว”สิงโตทะเล มี 2 ตัว สิงโตทะเลตัวแม่ สูง 8.6 เมตร หนัก 70 ตัน สร้างขึ้นจากซีเมนต์ฟอนดู
โดยช่างฝีมือผู้ล่วงลับไปแล้วที่ชื่อ ลิมนางเส็ง (Mr.Lim Nang Seng) ส่วนรูปปั้นตัวที่ 2 ขนาดเล็กกว่า สูงเพียง 2
เมตร หนัก 3 ตัน
ถูกสร้างโดยช่างลิมเช่นเดียวกัน ลำตัวทำจากซีเมนต์ฟอนดู ผิวทำจากจานลายคราม
และตาทำจากถ้วยชาสีแดงขนาดเล็กแต่เดิมแม่สิงโตและสิงโตน้อย
ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำสิงคโปร์ ตรงข้ามกับ Elizabeth Walk ห่างจากที่ตั้งปัจจุบันเพียง
120 เมตร เรียกบริเวณนี้ว่า สวนสิงโตทะเล ( เมอร์ไลออน พาร์ค – Merlion
Park) ต่อมาไม่นานบริเวณดังกล่าวก็เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
และกลายเป็นสถานที่ในเมืองใหญ่ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลกนายลีกวนยู
(Mr.Lee Kuan Yew) นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ในขณะนั้นได้ประกอบพิธีติดตั้งรูปปั้นสิงโตในวันที่
15 ก.ย.2515 มีการ ติดป้ายบรอนซ์เพื่อเป็นที่ระลึกของโอกาสพิเศษนี้
โดยมีถ้อยคำจารึกไว้ว่า “สิงโตทะเลถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือนสิงคโปร์”สิงโตทะเลและสิงโตทะเลน้อยถูกย้ายมายังที่ตั้งปัจจุบันระหว่างวันที่
23-25 เม.ย.2545 การย้ายที่ตั้งสิงโตทะเลไปอยู่ที่ตั้งใหม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
7.5 ล้านเหรียญสิงคโปร์รูปปั้นสิงโตทะเลหันหน้าออกไปยังอ่าวมาริน่า
(Marina Bay) ที่มีทัศนียภาพสวยงาม
อยู่ติดกับอาคารโรงแรมฟูลเลอตัน ที่มีสวนหย่อมขนาด 2,500 ตารางเมตรบริเวณนี้มีแหลมยื่นไปในทะเลและมีไหล่เขาเป็นชั้นๆ
มีลานดูวิวที่จุคนได้ถึง 300 คน
พร้อมด้วยจุดจอดเรือที่ผู้โดยสารสามารถลงจากเรือจ้างได้
ที่ลานดูวิวเป็นทำเลชั้นยอดที่นักถ่ายภาพจะถ่ายรูปสิงโตทะเลได้พร้อมกับฉากหลังคือเส้นขอบฟ้าของเมืองและท่าเรือมาริน่าที่งดงาม
รวมถึงสถานที่สำคัญต่างๆ
อย่างเช่นโรงแรมฟูลเลอตันและเอสพลาเนด-โรงภาพยนตร์ริมชายฝั่ง ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่าหนึ่งล้านคนต่อปี ถูกออกแบบขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของคณะกรรมการการท่องเที่ยวของสิงคโปร์
(Singapore
Tourism Board - STB) ในปี 1964 – รูปปั้นนี้มีหัวเป็นสิงโต ร่างเป็นปลา ยืนอยู่บนยอดคลื่น
ต่อมาไม่นานทั่วโลกก็ถือกันว่าสิงโตทะเลตัวนี้คือเครื่องหมายประจำชาติสิงคโปร์
น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง
น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง
(Fountain of Wealth) ตำแหน่งของน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง อยู่ตรงใจกลางระหว่างหมู่อาคาร
Suntec City หรืออยู่ใจกลางฝ่ามือซึ่งหงายขึ้นนั่นเอง
ก็เพราะมีความเชื่อว่าน้ำไหลของน้ำพุเปรียบเสมือนกับเงินทองที่ไหลเข้าฝ่ามือไม่หยุดหย่อนน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง(Fountain
of Wealth)หรือในภาษาจีน财富之泉 เป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก
น้ำพุแห่งความมั่งคั่งสร้างขึ้นในปีพ.ศ.2540(ค.ศ. 1997)และ Guinness Book ได้ทำการจดบันทึกสถิติไว้ในปี
พ.ศ.2541 ว่าเป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ตัวน้ำพุทำเป็นสีบรอนซ์และประกอบด้วยวงแหวนกลมที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 66
เมตร ความสูง 13 เมตร บริเวณ ฐานของน้ำพุมีพื้นที่
1,683 ตารางเมตร
นอกจากนี้ยีงมีการแสดงน้ำพุประกอบแสง สีเสียง 3D Laser ซึ่งมีความสวยงามเป็นอย่างมากใครที่มีโอกาสที่ได้เดินรอบฐานกลางของน้ำพุสามครั้งและสัมผัสน้ำทุกครั้งก็จะรับความโชคดีและมีความมั่งคั่งในทรัพย์สินตามมา
ขั้นตอนการสัมผัสน้ำจะต้องใช้มือขาวสัมผัสน้ำและอธิษฐาน
จากนั้นเดินวนตามเข็มนาฬิกาให้ได้ 3 รอบ คำอธิษฐานก็จะเป็นผล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น